FLASH POINT
รหัสสินค้า : DC-0005-D
DVD 1 แผ่น Master
พากย์ : ไทย
เนื้อเรื่องย่อ
โลดแล่นในวงการบันเทิงเอเชียมาแล้วนับไม่ถ้วนสำหรับพระเอกหนุ่มเจ้าเสน่ห์ กู่เทียนเล่อ สุดยอดนักแสดงแอ็คชั่น ดอนนี่ เยน และดาราสาวสุดเซ็กส์ซี่ ฟ่าน ปิงปิง ล่าสุดทั้งสามคนพร้อมจูงมือกันร่วมแสดงในภาพยนตร์ เรื่อง FLASH POINT ลุยบ้าเลือด ภาพยนตร์แอ็คชั่นระห่ำสุดขั้วเรื่องราวของตำรวจกับภารกิจกำจัดแก๊งทรชนของ แผ่นดิน FLASH POINT ลุยบ้าเลือดกับการรวมตัวของเหล่าดารานำแสดงชั้นนำ อาทิ กู่เทียนเล่อ
ที่เคยฝากผลงานเลื่องชื่อในละครจีนชุด มังกรหยก และ เจาะเวลาหาจิ๋นซี จนแฟนๆชาวไทยต่างชื่นชอบกันมาแล้ว ปะทะดารามาดเข้ม ดอนนี่ เยน หรือ เจิ่นจื่อตัน นักแสดงที่มีผลงานการแสดงมากมาย อาทิ IP Man , IpMan2 , Seven Swords , Hero , Dragon Tiger Gate ล่าสุดกับ An Empress and The Worriors ไม่เพียงเท่านั้น ยังได้“ ฟ่าน ปิงปิง” ดาราสาวสุดเซ็กส์ซี่จากแผ่นดินใหญ่มาเพิ่มความเร้าใจในภาพยนตร์เรื่องนี้อีก ด้วย
เรื่องราวของ จุนมา รับบทโดย (ดอนนี่ เยน) ชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นมือปราบเลือดพระกาฬได้มอบหมายสุดยอดภารกิจจาก หน่วยเหนือของกรมตำรวจให้แท็กทีมกับ วิลสัน(กู่เทียนเล่อ) เพื่อ ร่วมกันจัดการกับแก๊งทรชนสามพี่น้องที่กฎหมายไม่อาจลูบคมพวกมันได้ วิลสันนั้นแฝงตัวเข้าร่วมกับแก๊งนี้เพื่อล้วงข่าว แต่ด้วยนิสัยมุทะลุดุดันขอจุนมา ก็ทำให้แผนของวิลสันแตก จนเขาเกือบถูกฆ่าตาย ทว่าจุนมาก็สามารถจับสมาชิกหนึ่งในสามพี่น้องได้คนหนึ่ง แต่เรื่องนี้ทำให้วิลสันต้องถูกตัดขาซ้ายไปโดยฝีมือของสองพี่น้องที่เหลือ อยู่
จุนมารู้สึกผิดที่เขาเป็นต้นเหตุทำให้วิลสันพิการตลอดชีวิต จุนมาจึงตัดสินใจและปฏิญาณด้วยชีวิตว่าจะล่าล้างแก๊งทรชนพวกนี้ให้ดับดิ้น สิ้นซาก และขณะเดียวกันการรุกสวนกลับของศัตรู ก็ทำให้ทั้งจุนมา และ วิลสัน ต้องระส่ำระสายแทบเป็นตายเท่ากัน!
Flash Point เล่าเรื่องของสองตำรวจคู่หู ผู้กองหม่าจุ่น (Donnie Yen) และวิลสัน (กู่เทียนเล่อ) ฝ่ายแรกต้องการจะจับกุมแก๊งอาญากรรม “ 3 พี่น้อง” คนเวียดนามอพยพ ที่ก่อคดีไว้มากกมาย จนส่งฝ่ายหลังแฝงตัวเข้าไปอยู่ในแก๊งด้วย เพราะหาหลักฐาน การกระทำความผิดที่จะมัดตัวทั้ง 3 ไม่ให้ติดหลุด ปัญหาอยู่ที่ แก๊งโจรดังกล่าวนั้นสุดแสนจะอันตราย เป็นศูนย์รวมของทั้ง ความบ้าครั่ง เหี้ยมโหด แล้วยังฉลาดเป็นกรด ต่อตีเป็นเลิศ แก๊งโจรที่มีผู้นำเป็นพี่น้อง 3 คน ที่ประกอบไปด้วย จาเก่อ (หลี่เหลียงเหว่ย) ไทเกอร์ (Xing Yu) และ โทนี่ (Colin Chou) วิลสัน ต้องแฝงตัวเข้าไปอยู่กับทั้ง 3 ก็เหมือนกับผูกระเบิดเวลาไว้กับตัว
จนกระทั่งถึงเวลาที่สถานการณ์ทุกอย่างสุกงอม หลักฐานถูกเก็บรวมรวบพร้อม วิลสัน กลับถูกเปิดโปงก่อนการจับกุมจะเรียบร้อย เขาโดนทำร้าย บาดเจ็บสาหัส จนต้องกลายเป็นคนพิการ ส่วนพวกอาญากร ไทเกอร์ กับโทนี่ หนีรอดการจับกุมไปได้อย่างเฉียดฉิว ส่วนพี่ใหญ่ จาเก่อ ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวไว้รอคอยการพิจารณาคดี หลักฐาน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพยาน นั้นพร้อมที่จะพา จาเก่อ เข้าไปอยู่ในคุก
เวลาผ่านไป 3 เดือน วิลสัน ออกมาพักพื้น รอการกลับไปรับราชการ เรื่องที่เขาขาเสียจากการปฏิบัตหน้าที่ก็ดูเหมือนจะรบกวนจิตใจของ เขา และผู้กองหม่า มาโดยตลอด ทำให้ไม่สามารถเขาหน้ากันติดได้เหมือนเดิม ก็ได้แต่รอเวลาให้ความบาดหมางลดน้อยลง ในขณะที่ทุกอย่างจะเหมือนจะเข้าที่ ความวิบัติ และความวุ่นวายก็เวียนมาอีกหน
เมื่อสองโจร ไทเกอร์ และโทนี่ กลับมาสู่ฮ่องกงอีกครั้ง เพื่อช่วยเหลือพี่ชาย พยานในคดี ของจาเก่อ คนแล้วคนเล่าถูกสังหาร จนกระทั่ง เหลือเพียง วิลสัน เท่านั้นที่จะสามารถขึ้นให้การ ชี้ตัว จาเก่อ ในการพิจารณาคดีได้ เพราะฉะนั้นหมายความว่าชีวิตของเขาอยู่ในอันตราย นั้นยังไม่ร้ายเท่ากันชีวิตของ จูลี่ (ฟานปิงปิง) แฟนสาวของวิลสัน ผู้กองหม่าเป็นคนเดียวที่จะหยุดยั่งเรื่องร้ายต่างๆ และปกป้องชีวิตของคนทั้งคู่ ในไม่ใช่ในฐานะของมือกฏหมาย แต่เป็นความรับผิดชอบที่ดึงให้วิลสันต้องพบเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น
Donnie Yen นั้นพยายามสร้างคิวบู๊ในหนังของเขา ให้หนักหน่วงรุนแรงมาโดยตลอดอยู่แล้ว ใน Flash Point เข้าเสริมความสมจริงเข้าไปอีก ตัวละครในหนังสู้กันแบบไม่ปล่อยช่วงว่าง ให้เห็นมากนักอย่างในหนังแนวนี้เรื่องอื่นๆ จู่โจมใส่กันอย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้คำนึงถึงท่าทางที่สง่างาม เน้นการทำลายล้างกันแบบไม่มียั่ง ทั้งหมัด เท้า เข่า และศอก ไอเดียหลักของคิวบู๊ก็คือการ ผสมรูปแบบการต่อสู้แบบ MMA (Mixed Martial Arts) เข้ามา
MMA เป็นศิลปะป้องกันตัวที่ผสมผสานวิชาหลายแขนง ทั้ง มวย มวยไทย ยูโด มวยปล้ำ ซัมโบ ฯลฯ หลักการก็คือเป็นการต่อสู้ที่ผสมทั้งท่ายืน และท่านอนเข้าด้วยกัน มีการใช้ท่า Ground-and-pound (นั่งคร่อมตัวคู่ต่อสู้ และประเคน หมัดลงไปบนหน้า) และท่าจับ หัก ล็อก แบบมวยปล้ำสมัครเล่น หนังยังมีจุดเด่นที่ ฉากสงครามปืน เป็นการดวลปืนที่แปลกใหม่จากหนังฮ่องกงโดยทั่วไป ไม่ได้สวยงามแบบ “ Bullet Balet” (บุลเล็ต บัลเล่ร์ หรือ การสร้างฉากดวลปืนที่เน้น ความเหนือจริง การเคลื่อนไหว ที่ถูกเปรียบแปรยว่าเหมือนการเต้นบัลเล่ย์) ในสไตล์ของหนัง John Woo ไม่ได้สมจริงแบบฉากต่อตีของหนัง แต่เป็นส่วนผสมของทั้ง ความโกลาหล ฉับไว และหวือหวา
การออกแบบท่าทางการต่อสู้ และคิวบู๊ ได้รับการสนับสนุนจากการถ่ายที่มีสีสรรค์ เทคนิคต่างๆ มุมกล้องที่หลากหลาย การตัดต่อที่ช่วยการสร้างความน่าตื่นตาตื่นใจ ใช้ดนตรีประกอบช่วยส่งอารมณ์ได้ดี นั่นช่วยให้ Flash Point ไม่เฉิ่มเชย Wilson Yip ใช้เทคนิคการถ่ายทำที่ดี ช่วยส่งเสริมคิวบู๊ โดยไม่ได้พยายามจะ “ โชว์เหนือ” หนังถ่ายทอดมุมมองใหม่ๆ ด้านเทคนิค ให้กับหนังแนวนี้ เช่น ฉากชกหน้า ที่ถ่ายทำให้เห็นภาพกำบั้น ค่อยๆ ลอยไปปะทะกับใบหน้าอย่างช้าๆ ดูรุนแรงน่าตื่นตาตื่นใจดีแท้